Month: มกราคม 2023

ฝูงชน

นักปรัชญาและนักเขียนฮันนาห์ อาเรนท์ (1906-1975) ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า “มนุษย์จะต่อต้านผู้ปกครองผู้มีอำนาจสูงสุด และปฏิเสธที่จะก้มหัวให้กับพวกเขา” เธอเสริมอีกว่า “แต่มีไม่กี่คนที่ต่อต้านฝูงชน ที่ยืนขึ้นเพียงลำพังต่อหน้ามวลชนที่หลงทาง เพื่อเผชิญหน้ากับความบ้าคลั่งอันแข็งกร้าวโดยปราศจากอาวุธ” ในฐานะคนยิว อาเรนท์ประสบกับเรื่องนี้ด้วยตนเองในเยอรมนีประเทศบ้านเกิดของเธอเอง การถูกปฏิเสธโดยฝูงชนเป็นสิ่งที่น่ากลัว

อัครทูตเปาโลพบกับการถูกปฏิเสธเช่นนั้นด้วย เพราะท่านถูกฝึกให้เป็นฟาริสีและรับบี ชีวิตของท่านจึงเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเมื่อได้พบกับพระเยซูผู้ฟื้นคืนพระชนม์ เปาโลได้เดินทางไปเมืองดามัสกัสเพื่อข่มเหงผู้เชื่อในพระคริสต์ (กจ.9) หลังจากกลับใจ ท่านพบว่าตนเองถูกปฏิเสธโดยคนชาติเดียวกัน ในจดหมายของท่านที่เรารู้จักในชื่อพระธรรม 2 โครินธ์ เปาโลได้พูดถึงความยากลำบากที่ต้องเผชิญด้วยน้ำมือของคนเหล่านั้น เช่น “การถูกเฆี่ยนตี” และ “การถูกจำคุก” (6:5)

แทนที่จะตอบโต้การถูกปฏิเสธนั้นด้วยความโกรธและความขมขื่น เปาโลปรารถนาให้พวกเขาได้มารู้จักพระเยซูเหมือนกับท่าน ท่านเขียนว่า “ข้าพเจ้า​มี​ความ​ทุกข์​หนัก​และ​ความ​เจ็บ​ร้อน​ใน​ใจ​เสมอ​มิได้​ขาด​ เพราะ​ถ้า​เป็น​ประโยชน์​ข้าพเจ้า​ปรารถนา​จะ​ให้​ข้าพเจ้า​เอง​ถูก​สาป และ​ถูก​ตัด​ขาด​จาก​พระ​คริสต์​เพราะ​เห็น​แก่​พี่​น้อง​ของ​ข้าพเจ้า” (รม.9:2-3)

ในขณะที่พระเจ้าทรงต้อนรับเราเข้าสู่ครอบครัวของพระองค์ ขอพระองค์ทรงช่วยให้เราสามารถเชิญชวนแม้แต่ศัตรูของเราให้เข้ามาในความสัมพันธ์กับพระองค์ด้วยเถิด

เรื่องราวที่เหลือ

เป็นเวลากว่าหกทศวรรษที่เสียงของนักข่าวพอล ฮาร์วีย์ เป็นเสียงที่คุ้นเคยในรายการวิทยุของอเมริกา เขาอ่านข่าวหกวันต่อสัปดาห์ด้วยชั้นเชิงที่แพรวพราว “คุณรู้ว่าข่าวคืออะไร ในอีกอึดใจเดียวคุณจะได้ฟังเรื่องราวที่เหลือ” หลังจากโฆษณาสั้นๆ เขาจะเล่าเรื่องที่ไม่ค่อยมีคนรู้เกี่ยวกับคนที่มีชื่อเสียง แต่จะอุบชื่อคนหรือข้อมูลสำคัญๆเอาไว้ในตอนท้าย ผู้ฟังชื่นชอบเวลาที่เขาเว้นจังหวะการพูดแล้วต่อด้วยประโยคเด็ดว่า “แล้วตอนนี้คุณก็ได้รู้...เรื่องราวที่เหลือ”

นิมิตของอัครสาวกยอห์นเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีตและอนาคตถูกเปิดเผยพร้อมกับความหวังที่คล้ายกัน แต่เรื่องราวของท่านเริ่มต้นด้วยความเศร้าท่านไม่อาจหยุดร่ำไห้เมื่อรู้ว่า ไม่มีผู้ใดทั้งในสวรรค์และบนแผ่นดินโลกที่บอกเหตุการณ์ที่จะต้องเกิดขึ้นในภายหน้าได้ (วว.4:1; 5:1-4) แล้วท่านก็ได้ยินเสียงที่บอกว่าความหวังมีอยู่ใน “สิงห์แห่งเผ่ายูดาห์” (ข้อ 5) แต่เมื่อยอห์นมองไป แทนที่จะเห็นสิงห์ผู้มีชัย ท่านมองเห็นลูกแกะที่ประหนึ่งทรงถูกปลงพระชนม์ (ข้อ 5-6) ฉับพลันนั้นมีภาพที่ไม่คาดคิดปรากฏขึ้นเป็นการเฉลิมฉลองรอบพระที่นั่งของพระเจ้า และมีบทเพลงสามท่อนที่ถูกขับร้องโดยผู้อาวุโส 24 คนร่วมร้องกับทูตสววรค์จำนวนมากเกินกว่าจะนับได้ และจากนั้นก็ร่วมร้องโดยสิ่งมีชีวิตทั้งหมดทั้งในสวรรค์และแผ่นดินโลก (ข้อ 8-14)

ใครจะคิดว่าองค์พระผู้ช่วยให้รอดผู้ทรงถูกตรึงจะเป็นความหวังของบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งปวง เป็นพระสง่าราศีของพระเจ้าของเรา และเป็นเรื่องราวที่เหลือของเรา

ออกจากถ้ำสิงโต

เมื่อทาเฮอร์และดอนย่าภรรยามาเชื่อในพระเยซู พวกเขารู้ว่าต้องเสี่ยงกับการถูกข่มเหงในประเทศบ้านเกิดของตน และก็เป็นเช่นนั้นจริงเมื่อวันหนึ่งทาเฮอร์ถูกปิดตาสวมกุญแจมือ ถูกขังและถูกตั้งข้อหาว่าละทิ้งศาสนา ก่อนที่เขาจะเข้าสู่การพิจารณา เขาและดอนย่าตกลงกันว่าจะไม่ทรยศพระเยซู

สิ่งที่เกิดขึ้นในการพิจารณาคดีทำให้เขาอัศจรรย์ใจ ผู้พิพากษากล่าวว่า “ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่ผมอยากจะช่วยคุณให้รอดจากปากของวาฬและสิงโต” ทาเฮอร์จึง “รู้ว่าพระเจ้าทรงกำลังทำงาน” เขาไม่อาจอธิบายเป็นอื่นได้เลยที่ผู้พิพากษาอ้างอิงถึงเรื่องราวสองตอนจากพระคัมภีร์ (ดู ยนา.2 และ ดนล.6) ทาเฮอร์ถูกปล่อยออกจากคุกและครอบครัวของเขาลี้ภัยไปที่อื่น

การปล่อยตัวทาเฮอร์อย่างน่าประหลาดใจนั้นสะท้อนเรื่องราวของดาเนียล อภิรัฐมนตรีผู้มีความสามารถกำลังจะได้รับการเลื่อนขั้น ทำให้เพื่อนร่วมงานอิจฉา (ดนล.6:3-5) พวกเขาวางแผนทำลายดาเนียลโดยการโน้มน้าวพระราชาดาริอัส ให้ออกกฎหมายห้ามไม่ให้อธิษฐานทูลขอต่อผู้ใดนอกจากพระราชา แต่ดาเนียลไม่สนใจ พระราชาดาริอัสไม่มีทางเลือกนอกจากโยนเขาลงไปในถ้ำสิงโต (ข้อ 16) แต่พระเจ้า “ทรงช่วยกู้” และช่วยดาเนียลให้รอดจากความตาย (ข้อ 27) เช่นเดียวกับที่ทรงช่วยทาเฮอร์ด้วยการให้ผู้พิพากษาปล่อยเขาอย่างน่าอัศจรรย์

วันนี้มีผู้เชื่อมากมายทนทุกข์จากการติดตามพระเยซู บางคนก็ถึงกับถูกฆ่า เมื่อเราเผชิญกับการข่มเหง ความเชื่อของเราจะหยั่งรากลึกยิ่งขึ้นได้เมื่อเราเข้าใจว่าพระเจ้าทรงมีวิธีการที่เราไม่อาจจินตนาการได้ จงรู้เถิดว่าพระองค์ทรงอยู่กับคุณในการต่อสู้ใดๆที่คุณเผชิญอยู่

พระเจ้าผู้ทรงไถ่

เพื่อเป็นการแสดงภาพประกอบคำเทศนา ผมจึงเดินไปยังภาพวาดอันงดงามที่ศิลปินสร้างสรรค์ไว้บนเวที แล้วลากเส้นสีเข้มลงไปที่กลางภาพนั้น ที่ประชุมตกตะลึงอ้าปากค้าง ศิลปินเพียงแต่ยืนอยู่ข้างๆ และมองดูขณะที่ผมสร้างตำหนิบนงานที่เธอรังสรรค์ขึ้น จากนั้นเธอเลือกแปรงด้ามใหม่ และด้วยความรักเธอบรรจงเปลี่ยนภาพที่ถูกทำลายให้กลายเป็นงานศิลปะที่วิจิตรงดงาม

การซ่อมแซมงานของเธอทำให้ผมคิดถึงพระราชกิจที่พระเจ้าทรงกระทำในชีวิตของเราเมื่อเราสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้น ผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ตำหนิชนชาติอิสราเอลที่ตาบอดและหูหนวกฝ่ายวิญญาณ (อสย.42:18-19) แต่จากนั้นท่านก็ประกาศความหวังในการทรงปลดปล่อยและการทรงไถ่ของพระเจ้าว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว” (43:1) พระเจ้าทรงสามารถทำสิ่งเดียวกันนี้เพื่อเราด้วย แม้หลังจากที่เราได้ทำบาป ถ้าเราสารภาพบาปนั้นและหันกลับมาหาพระเจ้า พระองค์จะทรงยกโทษและฟื้นฟูเรา (ข้อ 5-7; ดู 1 ยน.1:9) เราไม่สามารถทำให้เกิดความงามจากความยุ่งเหยิงได้ แต่พระเยซูทรงทำได้ ข่าวดีแห่งพระกิตติคุณคือพระองค์ทรงไถ่เราด้วยพระโลหิตของพระองค์ พระธรรมวิวรณ์ยืนยันกับเราว่า ในท้ายที่สุดแล้วพระคริสต์จะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยด แก้ไขอดีตของเรา และสร้างสิ่งสารพัดขึ้นใหม่ (วว.21:4-5)

เรามองเห็นเรื่องราวของชีวิตเราได้อย่างจำกัด แต่พระเจ้าผู้ทรงรู้จักเรา “ตามชื่อ” (อสย.43:1) จะทรงทำให้ชีวิตของเรางดงามเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้ ถ้าคุณได้รับการไถ่โดยความเชื่อในพระเยซูแล้ว เรื่องราวของคุณจะมีจุดจบที่งดงามเช่นเดียวกับภาพวาดนั้น

พระเยซูแห่งพระวจนะ

เสียงอื้ออึงในห้องค่อยๆเบาลงสู่ความเงียบที่สบายหูเมื่อหัวหน้าชมรมการอ่านกำลังสรุปนวนิยายที่กลุ่มจะอภิปรายร่วมกัน โจแอนเพื่อนของฉันตั้งใจฟังแต่ไม่คุ้นกับโครงเรื่อง ในที่สุดเธอก็รู้ว่าเธออ่านหนังสือสารคดีที่มีชื่อคล้ายกับนวนิยายที่คนอื่นอ่านมา แม้ว่าเธอจะชื่นชอบการอ่านหนังสือเล่มที่ “ผิด” แต่เธอไม่สามารถอภิปรายหนังสือเล่มที่ “ถูก” ร่วมกับเพื่อนๆได้

อัครสาวกเปาโลไม่ต้องการให้ผู้เชื่อพระเยซูในเมืองโครินธ์เชื่อในพระเยซูที่ “ผิด” ท่านชี้ให้เห็นว่าพวกสอนผิดได้แทรกซึมเข้ามาในคริสตจักรและสอนถึง “พระเยซู” อีกองค์หนึ่งแก่พวกเขา และพวกเขาก็เชื่อคำโกหกนั้น (2 คร.11:3-4)

เปาโลประณามคำสอนนอกรีตของพวกสอนเท็จเหล่านี้ ในจดหมายฉบับแรกที่ท่านเขียนถึงคริสตจักรโครินธ์ ท่านได้ทบทวนความจริงเกี่ยวกับพระเยซูตามที่เขียนไว้ในพระวจนะ พระเยซูองค์นี้คือพระเมสสิยาห์ผู้ “ทรงวายพระชนม์เพราะบาปของเรา... วันที่สามพระองค์ทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาใหม่... ทรงปรากฏแก่...อัครทูตสิบสองคน” และสุดท้ายทรงปรากฏแก่เปาโลเอง (1 คร.15:3-8) พระเยซูผู้นี้เสด็จเข้ามาในโลกโดยหญิงพรหมจารีย์ชื่อมารีย์ และทรงถูกเรียกว่า อิมมานูเอล (พระเจ้าทรงอยู่กับเรา) เพื่อยืนยันถึงความเป็นพระเจ้าของพระองค์ (มธ.1:20-23)

ฟังดูเหมือนกับพระเยซูที่คุณรู้จักไหม การเข้าใจและยอมรับความจริงที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์เกี่ยวกับพระองค์ จะทำให้เรามั่นใจว่าเราอยู่บนเส้นทางฝ่ายวิญญาณที่จะนำไปสู่สวรรค์

มีชัยเหลือล้น

ตอนที่สามีฉันเป็นโค้ชให้ทีมเบสบอลชื่อลิตเติ้ล ลีคของลูกชายเรา เขาให้รางวัลผู้เล่นด้วยการจัดงานเลี้ยงส่งท้ายปี และแสดงความขอบคุณสำหรับพัฒนาการของพวกเขาในฤดูกาลที่ผ่านมา ดัสตินหนึ่งในผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดเข้ามาหาฉันในระหว่างงานเลี้ยง ถามว่า

“วันนี้เราไม่ได้แพ้การแข่งขันหรือครับ”
“ใช่” ฉันตอบ “แต่พวกเราภูมิใจในตัวเธอที่เล่นอย่างเต็มที่”
“ผมรู้” เขาพูด “แต่เราก็แพ้ ใช่ไหมครับ” ฉันพยักหน้า
“แล้วทำไมผมถึงรู้สึกว่าผมชนะ” ดัสตินถาม
ฉันยิ้มแล้วพูดว่า “เพราะเธอคือผู้ชนะไง”

ดัสตินเคยคิดว่าการแพ้การแข่งขันหมายความว่าเขาล้มเหลวแม้เขาจะทำดีที่สุดแล้วก็ตาม ในฐานะผู้เชื่อในพระเยซู การต่อสู้ของเราไม่ได้จำกัดอยู่ในสนามกีฬา ถึงกระนั้นเรามักจะถูกล่อลวงให้มองช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิตว่าเป็นภาพสะท้อนถึงคุณค่าของตัวเราเอง

อัครสาวกเปาโลยืนยันว่าความทุกข์ในปัจจุบันของเรามีความเชื่อมโยงกับสง่าราศีในอนาคตของเราในฐานะลูกของพระเจ้า เมื่อพระเยซูได้ประทานพระองค์เองเพื่อเราแล้ว พระองค์ยังทรงต่อสู้ในนามของเราในสงครามกับบาปที่ยังคงดำเนินต่อไป และเปลี่ยนเราให้เป็นเหมือนพระองค์ (รม.8:31-32) แม้เราทั้งหลายจะต้องพบเจอกับความยากลำบากและการข่มเหง ความรักอันไม่สั่นคลอนของพระเจ้าจะช่วยเราบากบั่นมุ่งไป (ข้อ 33-34)

ในฐานะลูกของพระเจ้า เราอาจถูกลวงและยอมให้ปัญหามากำหนดคุณค่าของตัวเรา อย่างไรก็ตาม ชัยชนะสูงสุดของเราได้รับการรับรองไว้แล้ว ในระหว่างทางเราอาจสะดุดล้ม แต่เราจะ “มีชัยเหลือล้น” เสมอ (ข้อ 35-39)

พระองค์ทรงเป็นผู้ใด

เมื่อตอนอายุ 16 ปี หลุยส์ โรดริเกซได้เคยถูกจำคุกมาแล้วจากการขายโคเคน แต่ตอนนี้เขาเข้าไปในเรือนจำอีกครั้งด้วยข้อหาพยายามฆ่าและมีโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่พระเจ้าตรัสกับเขาในความผิดที่เขาทำ เบื้องหลังลูกกรงนั้นหลุยส์ผู้อ่อนเยาว์จำได้ถึงตอนเป็นเด็กที่แม่พาเขาไปโบสถ์อย่างสม่ำเสมอ บัดนี้เขารู้สึกว่าพระเจ้าทรงทำงานในใจของเขา ในที่สุดหลุยส์ก็สารภาพบาปและเชื่อวางใจในพระเยซู

ในพระธรรมกิจการ เราพบชายชาวยิวที่กระตือรือร้นอย่างแรงกล้าชื่อเซาโล ซึ่งถูกเรียกว่าเปาโลด้วย ท่านมีความผิดฐานข่มเหงผู้เชื่อในพระเยซูอย่างรุนแรงและต้องการฆ่าพวกเขา (กจ.9:1) มีหลักฐานว่าท่านเป็นผู้นำกลุ่มผู้ข่มเหงและอยู่ในฝูงชนที่ฆ่าสเทเฟน (7:58) แต่พระเจ้าตรัสกับท่านโดยตรงถึงเรื่องความผิดของท่าน บนถนนไปยังเมืองดามัสกัสเซาโลตาบอดเพราะแสงสว่างจากฟ้า และพระเยซูตรัสกับท่านว่า “เจ้าข่มเหงเราทำไม” (9:4) เซาโลจึงทูลถามว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์ทรงเป็นผู้ใด” (ข้อ 5) และนั่นคือจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ ท่านมาเชื่อในพระเยซู

หลุยส์ โรดริเกซถูกตัดสินจำคุก แต่ภายหลังได้รับการปล่อยตัวโดยมีทัณฑ์บนนับแต่นั้นมาเขารับใช้พระเจ้า อุทิศทุ่มเทชีวิตเพื่อพันธกิจเรือนจำในสหรัฐอเมริกาและอเมริกากลาง

พระเจ้าทรงเชี่ยวชาญในการไถ่ส่วนที่เลวร้ายที่สุดภายในเรา พระองค์ทรงทำงานในใจของเราและตรัสกับเราเรื่องชีวิตที่เต็มไปด้วยความผิดบาป บางทีอาจถึงเวลาที่เราจะสารภาพบาปของเราและมาเชื่อในพระเยซู

ถูกสร้างเพื่อการผจญภัย

เมื่อไม่นานมานี้ผมได้ค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ ขณะเดินไปตามทางดินผ่านหมู่ต้นไม้ใกล้ๆบ้าน ผมเจอสนามเด็กเล่นที่มีคนสร้างขึ้น มีบันไดที่ทำจากกิ่งไม้พาดขึ้นไปยังจุดชมวิว มีชิงช้าทำจากแกนพันสายเคเบิลแขวนกับกิ่งไม้ มีกระทั่งสะพานแขวนโยงระหว่างต้นไม้ ใครบางคนเปลี่ยนไม้และเชือกเก่าๆ ให้กลายเป็นการผจญภัยอย่างสร้างสรรค์!

แพทย์ชาวสวิสพอล ทัวร์นิเยร์เชื่อว่าเราถูกสร้างมาเพื่อการผจญภัย เพราะเราถูกสร้างตามพระฉายาของพระเจ้า (ปฐก.1:26-27) เช่นเดียวกับที่พระเจ้าเสด็จออกไปผจญภัยเพื่อสร้างจักรวาล (ข้อ 1-25) เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงเลือกที่จะเสี่ยงในการสร้างมนุษย์ผู้สามารถเลือกระหว่างความดีและความชั่ว (3:5-6) และเช่นเดียวกับที่ทรงเรียกเราให้ “มีลูกดกทวีมากขึ้นจนเต็มแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน” (1:28) เราเองก็มีแรงขับที่จะประดิษฐ์คิดค้น ลองสิ่งต่างๆที่มีความเสี่ยง และก่อให้เกิดสิ่งใหม่ในขณะที่เราครอบครองแผ่นดินโลกอย่างเกิดผล การผจญภัยเหล่านี้อาจเป็นสิ่งใหญ่หรือเล็ก แต่จะดีที่สุดคือควรเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ผมแน่ใจว่าคนที่สร้างสนามเด็กเล่นนั้นจะต้องมีความสุขที่มีคนค้นพบและได้เพลิดเพลินกับมัน

ไม่ว่าจะเป็นการรังสรรค์ดนตรีใหม่ การค้นหาวิธีประกาศข่าวประเสริฐรูปแบบใหม่ หรือการทำให้ชีวิตแต่งงานที่ห่างเหินมีชีวิตชีวาอีกครั้ง การผจญภัยทุกรูปแบบทำให้หัวใจเราเต้นแรงอยู่เสมอ มีงานหรือโครงการใหม่อะไรที่กำลังรบกวนใจคุณอยู่ในขณะนี้ บางทีพระเจ้าอาจกำลังนำคุณไปสู่การผจญภัยครั้งใหม่

ที่ทำรัง

นกนางแอ่นทรายเป็นนกนางแอ่นขนาดเล็กที่ขุดรูทำรังตามริมตลิ่งแม่น้ำ การพัฒนาที่ดินในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษทำให้ที่อยู่อาศัยของพวกมันลดลง และแต่ละปีเมื่อพวกมันกลับมาจากการอพยพย้ายถิ่นในฤดูหนาวมันจะมีที่ให้ทำรังน้อยลงเรื่อยๆ นักอนุรักษ์ท้องถิ่นรีบลงมือสร้างสันทรายเทียมขนาดมหึมาเพื่อให้นกใช้เป็นที่อยู่อาศัย ด้วยการช่วยเหลือของบริษัทรับปั้นทราย พวกเขาปั้นทรายเพื่อสร้างที่อยู่ให้นกได้อาศัยต่อไปอีกหลายปี

การช่วยเหลือนกนี้เป็นภาพสะท้อนอันชัดเจนของคำตรัสที่พระเยซูทรงปลอบประโลมสาวกของพระองค์ หลังจากทรงบอกพวกเขาว่าพระองค์จะเสด็จจากไปและพวกเขาจะยังไปกับพระองค์เดี๋ยวนั้นไม่ได้ (ยน.13:36) พระองค์ประทานความมั่นใจแก่พวกเขาว่าพระองค์จะ “เตรียมที่ไว้สำหรับท่านทั้งหลาย” ในสวรรค์ (14:2) ถึงแม้พวกเขามีเหตุผลที่จะเสียใจเมื่อพระเยซูตรัสว่าจะจากพวกเขาไปในอีกไม่ช้า และพวกเขายังตามพระองค์ไปไม่ได้ แต่พระองค์ประทานกำลังใจให้พวกเขามองภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์นี้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการตระเตรียมเพื่อต้อนรับพวกเขา และเราทั้งหลาย

หากปราศจากการสละพระชนม์ชีพของพระเยซูบนไม้กางเขน “ที่อยู่เป็นอันมาก” ในพระนิเวศของพระบิดาจะไม่สามารถต้อนรับพวกเขาได้เลย (ข้อ 2) การที่พระคริสต์เสด็จไปล่วงหน้าเพื่อเตรียมที่ไว้เป็นการรับประกันว่า พระองค์จะเสด็จกลับมาและพาผู้ที่เชื่อวางใจในการเสียสละของพระองค์ไปอยู่กับพระองค์ ที่นั่นเราจะได้อาศัยอยู่กับพระองค์อย่างชื่นชมยินดีตลอดนิรันดร์

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา